Wheel of Fortune card

ความหมายหลักในการทำนายไพ่ทาโรต์ Wheel of Fortune คือ โชคชะตา พรหมลิขิต การหมุนเวียน วงโคจร ทิศทางชีวิต กาลเวลาของชีวิต 
Wheel of Fortune ตามความหมายศัพท์ภาษาอังกฤษหมายถึง 
Wheel แปลว่า วงล้อ กงล้อ วงกลม ล้อหมุน รอกหมุน 
Fortune แปลว่า โชคชะตา ชะตาชีวิต จังหวะชีวิต โอกาสของชีวิต
รวมกันหมายถึง วงล้อแห่งโชคชะตาชีวิต,วงจรของชีวิต หรือกงกรรมกงเกวียน
ไพ่ทาโรต์ Wheel of Fortune มักจะมีรายละเอียดและรูปไพ่ที่เห็นบ่อยๆ คือ จะมีวงล้อขนาดใหญ่อยู่กลางท้องฟ้าหรือดินแดนสวรรค์ และมีเทพตัวแทนสิ่งศักดิ์สิทธ์ผู้ควบคุมธาตุทั้ง4 ดิน น้ำ ลม ไฟ อยู่ที่มุมทั้ง4ด้าน หรือบางสำรับก็เป็นอุปกรณ์คือ เหรียญ ถ้วย ไม้เท้า และดาบ ที่มุมของไพ่ ด้านบนของวงล้ออาจจะมีตัวสฟิงซ์ถือดาบเป็นสิ่งตัดสินชี้ชะตากำหนดวงล้อนั้น มีเทพอนูบิสตัวแทนเทพแห่งความตายและเทพเซธตัวแทนความโชคร้ายอยู่ใกล้เคียงกับวงล้อนั้น บางสำรับก็เป็นรูปวงจรของชีวิต เกิด แก่ เจ็บ ตาย อยู่ในวงล้อนั้น และบางทีในวงล้อก็เขียนคำว่า TORA หรือ TARO ซึ่งหมายถึงกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ 
ประวัติความเป็นมาของไพ่ทาโรต์ Wheel of Fortune คือ จากความเชื่อกันว่า สิ่งมีชีวิตย่อมมีเทพผู้ดูแลและควบคุมชะตาชีวิตให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์และชะตากรรมของผู้นั้น ส่งผลทำให้เกิดโชคดีและร้าย ความสุขและความทุกข์ ตามแต่ละช่วงเวลาของสิ่งมีชีวิตนั้นๆ และมาจากข้อเท็จจริงที่ว่า ชีวิตนั้นย่อมพลิกผันเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา ทุกชีวิตย่อมต้องเจอช่วงที่สุขและทุกข์ตามแต่โชคชะตาของผู้นั้น การใช้ชีวิตของแต่ละสิ่งย่อมถูกกำหนดมาอยู่แล้ว อีกทั้งมีที่มาจากตำนานความเชื่อเรื่องเทพแห่งโชคชะตาหลากหลายที่มา เช่น ตำนานอียิปต์โบราณ ตำนานกรีกโบราณ แม้แต่ธรรมจักรของศาสนาพุทธ ตามแต่ละความเชื่อและที่มา

ดวงดาวครองเรือน : ดาวพฤหัส
หน้าไพ่
เป็นไพ่แห่งโชคชะตา เป็นรูปกงล้อที่มีสัตว์ประหลาดครึ่งคนครึ่งสุนัขจิ้งจอก เป็นหลักอยู่ เป็นเทพ อานูบิส ของชาวอียิปต์โบราณ มีหน้าที่ชั่งน้ำหนักของจิตวิญญาน ก่อนที่จะพิพากษาความผิด งูเป็นตัวแทนของเทพ Set ซึ่งเป็นเทพของชาวอียิปต์เช่นกัน และเชื่อกันว่าเป็นผู้นำความตายมาสู่โลกมนุษย์ มีรูปสฟิงซ์ นั่งอยู่บนกงล้อนี้ โดยเป็นสัญลักษณ์ของจักราศีที่ผสมกัน นั่นคือราศีมีน ราศี พฤษภ ราศีสิงห์ ราศีพิจิก ซึ่งหมายถึงธาตุทั้งสี่ สัญลักษณ์ที่อยู่ในวงกลมหมายถึงการเล่นแร่แปรธาตุ และหมายถึงสารปรอท ตัวหนังสือ TORA หรือถ้าจะอ่านกลับกันก็คือ TARO นั้นอยู่ รายรอบจุดหลักสี่จุดในวงกลมนี้ วงล้อนี้หมายถึงการขึ้น ๆ ลง ๆ ของโชคชะตา นับตั้งแต่ประสบความสำเร็จ การสูญเสีย จนไปถึงความล้มเหลวและไม่มีอะไรเลย มันคือวงจรชีวิตของมนุษย์เรา ซึ่งมีการเกิด ผลิบาน ออกดอกผล จนถึงการดับสูญไป และยังหมายถึงความมั่นคง และการเปลี่ยนแปลง ผู้วาดเค้าใช้สีฟ้าเป็น Background เป็นสีที่บ่งบอกถึง ความสำเร็จ ความยิ่งใหญ่ เป็นไพ่ดีอีกใบหนึ่ง จะให้ผลดีทางด้านโชคลาภ และของกำนัล

ความหมายของไพ่
นัยว่าเป็นไพ่ที่เด่นมากใบหนึ่งในชุดเมเจอร์ฯ บ่งถึงศักยภาพแห่งความเจริญรุ่งเรืองในหลายๆ ด้านที่คนเราปรารถนาเงินทอง ชื่อเสียง โชคลาภการงาน ความรัก ทุกคนก็อยาก จะสมหวังทั้งนั้นเมื่อจับได้หน้าไพ่ใบนี้ เตรียมรอฟังข่าวดีได้เลย ยิ่งเป็นเรื่องเกี่ยว ข้องกับอสังหาริมทรัพย์ ให้ฝันหวานไว้ได้ เพราะจะต้องมีข่าวดีเข้ามาให้ชื่นใจ แม้นใครดูเหมือนว่ามีเคราะห์ก็อาจแคล้วคลาดได้อย่างไม่น่าเชื่อ

การทำนาย
บงบอกถึง การเริ่มต้นใหม่ การตัดสินใจในเรื่องสำคัญ ๆ รวมทั้งโชคลาภที่จะมาถึงผู้ที่จับไพ่ใบนี้ และเป็นสิ่ง ที่ท่านต้องได้รับ ไม่มีใครมาขัดขวาง หรือหลีกหนีได้ เพราะมันเป็นวงจรของชีวิตที่ท่านพึงได้รับของสิ่งนั้น ยิ่งคุณตระหนักถึงอำนาจของตัวเองที่มีอยู่เหนือโชคชะตาของคุณมากขึ้นเท่าไร สิ่งต่าง ๆ ก็จะยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้นเท่านั้น และหมายถึงโชคที่เกี่ยวข้องกับเรื่องบ้านและสิ่งปลูกสร้าง ถ้าถามเรื่อง เรื่องการงานก็มีโชคทางด้านการโยกย้ายเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ถามเรื่องความรักก็อาจหมายถึงท่านกำลัง มีโชคทางด้านความรัก หรือการได้รับของฝากหรือของกำนัลที่น่า

ไพ่ทาโรต์ The Hermit มีหมายเลขประจำไพ่คือหมายเลข 9 ซึ่งหมายถึง การก้าวผ่านของชีวิต ความใกล้จะสิ้นสุด 
Hermit มีความหมายตามคำศัพท์ภาษาอังกฤษ คือ ฤาษี นักพรต ผู้ทรงศีล ผู้บำเพ็ญศีล ผู้สันโดษ ผู้จำศีล ผู้สมถะ
ความหมายหลักของไพ่ทาโรต์ The Hermit ในการทำนายคือ ความสันโดษ สมาธิ การเก็บตัว ความเบื่อหน่าย การปล่อยวาง การศึกษาอย่างเคร่งครัด ความเก่าแก่ ความโบราณ
ตำนานไพ่ทาโรต์ The Hermit คือ เทพโครนัส บุตรของเทพอูรานอสและเทพีจีอา และเป็นบิดาของเทพซีอุส เหตุที่เทพโครนัสยึดอำนาจจากเทพอูรานอสจนถูกสาปแช่งว่า จะต้องถูกลูกของตนเองยึดอำนาจเช่นเดียวกับที่ทำเอาไว้ เพราะเมื่อเทพีจีอากำเนิดบุตรเมื่อใดเทพอูรานอสก็จับบุตรโยนลงบาดาลทั้งหมด จนเทพีจีอาลงไปช่วยแต่ไม่มีใครกล้าที่จะต่อสู้กับเทพอูรานอสยกเว้นเทพโครนัส จนสามารถเอาชนะได้ ต่อมาเทพโครนัสก็ได้ถูกเทพซีอุสยึดอำนาจเช่นกัน ภายหลังเทพโครนัสจึงได้หนีไปตั้งหลักแหล่งต่างถิ่นอย่างสงบ และเป็นเทพแห่งกาลเวลา
ไพ่ทาโรต์ The Hermit มีรายละเอียดและการออกแบบไพ่ที่ส่วนใหญ่จะเป็นเหมือนกัน คือ เป็นรูปชายชราสวมชุดขาวหรือชุดเทา ชุดที่ใส่ดูเรียบง่ายและดูโทรมๆมอซอ มีหนวดเครายาวหงอกขาว มือหนึ่งถือไม้เท้าพยุงตัวเอง อีกมือหนึ่งถือคบไฟ ยืนอยู่ท่ามกลางภูเขาหิมะปกคลุมไปหมด และอยู่เพียงตัวคนเดียวลำพัง บรรยากาศในเวลากลางคืนอันหนาวเย็นและเงียบสงัด วังเวง ไร้ผู้คนและสรรพสิ่งอื่นใดๆ บางสำรับก็เป็นรูปชายแก่นั่งอ่านหนังสือในห้องสมุดที่มีตำรามากมาย เป็นต้น

ราศีครองเรือน : กันย์
หน้าไพ่
เป็นไพ่ฤาษี ไพ่ใบนี้จะใช้สีที่หม่นหมองสักหน่อย แต่ไพ่ใบนี้เป็นรูปของชายแก่ที่ยืนก้มศีรษะ ลง สวมเสื้อคลุมสีเทา มีหมวกคลุมศีรษะ ยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยว โดยยืนอยู่ในธรรมชาติที่มี ฟ้าสีเทา ภูมิประเทศในรูปมีหิมะปกคลุมอยู่ แสงสว่างที่เขามีอยู่คือตะ

เกียงเท่านั้น และให้ ความอบอุ่นแก่เค้าเพื่อนประทังชีวิตให้อยู่รอด ไม้เท้าในมือของเค้านั้นเป็นสัญลักษณ์ของการสนับสนุน การประคองตัว ให้ยืนยัดต่อสู้ให้ผ่านฤดูหนาวนี้ไปให้ได้

ความหมายของไพ่
การไม่ปรารถนาในลาภยศชี่อเสียงหรือเงินทอง ก็มิใช่ว่าบุคคลนั้นเป็นคนโง่แต่ประการใด เขาอาจจะเป็นคนฉลาดอย่างยิ่งด้วยซ้ำไป เพราะการยึดติดในวัตถุ ต่างๆหรือตำแหน่งหัวโขน ก็คือเปลือกนอกที่ไม่จีรังคนที่เหมาะกับหน้าไพ่ใบนี้เขาอาจจะทำความดีหรือทำงาน ที่อยู่เบื้องหลัง ไม่หวังเอาหน้าหรือชื่อเสียง เป็นคนที่น่าคบ เพราะชีวิตเขามีแต่ให้อย่างเดียว โดยไม่ คิดจะเบียดเบียนใคร จะพบความสุขแบบเรียบง่ายครับ

การทำนาย
เป็นสัญลักษณ์ของเวลาที่จะเสาะหาจิตวิญญาณของตัวเอง การเข้าณาน การทำบุญ ถือศิล ความต้องการความอดทนในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ต้องใช้เวลาและการรอคอยอย่างสงบ สำหรับการทำนายไพ่ใบนี้ถามเรื่องการงาน หรือธุรกิจ ส่วนมากจะยังไม่มีคำตอบนัก ให้ประคองตัวให้รอด พ้นสถานการณ์ปัจจุบันให้ได้จะดีกว่า ถ้าถามเรื่องความรักระยะนี้อาจสันโดษ หรือการอยู่คนเดียวไประยะหนึ่ง หรือถ้าถามเรื่องความรักในพื้นดวงก็มักจะอยู่เป็นโสด

ไพ่ทาโรต์ Strength มีหมายเลขประจำไพ่คือหมายเลข 8 หรือบางสำรับจะเป็นหมายเลข 11 ซึ่งมักจะสลับกับไพ่ทาโรต์ใบ Justice
Strength มีความหมายตามศัพท์ภาษาอังกฤษคือ แข็งแรง เข้มแข็ง แข็งแกร่ง พละกำลัง ความบึกบึน ความกล้าแกร่ง
ไพ่ทาโรต์ Strength มักมีรายละเอียดของรูปไพ่ดังนี้ คือ มักจะออกแบบเป็นรูปหญิงสาวสวยงามกำลังจับอยู่บนหัวสิงโต ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีความดุร้าย เป็นเจ้าป่า แต่เธอก็สามารถที่อยู่และทำให้มันเชื่องโดยที่ไม่ได้ใช้อาวุธหรือกำลังเข้าจับอะไรแม้แต่นิดเดียว แต่เธอก็สามารถที่จะอยู่กับมันและระงับความดุร้ายของสิงโตได้ มีสัญลักษณ์ความไม่มีที่สิ้นสุดบนศีรษะของเธอ บางสำรับก็ออกแบบว่าเป็นผู้หญิงที่อยู่กับเหล่าสิงสาราสัตว์หรือมังกร สัตว์ประหลาด หรือบางสำรับก็เป็นนักวิ่งแข่ง บางสำรับก็เป็นชายล้มสิงโต เป็นต้น
ตำนานของไพ่ Strength คือ นางแอตแลนตา ซึ่งมีบิดาเป็นกษัตริย์แห่งเมืองหนึ่ง ได้นำเธอไปทิ้งไว้ในป่าตอนที่เธอกำเนิดเพราะบิดาเธอไม่ต้องการลูกสาว แต่ก็ได้มีแม่หมีนำไปเลี้ยงดู จนหลายปีต่อมามีนายพรานได้ไปพบเจอเข้า จึงได้นำเธอมาเลี้ยง นางแอตแลนตามีชื่อเสียงทั่วประเทศกรีกเพราะเธอมีชัยชนะในการวิ่งแข่งทุกประเภท ต่อมานางได้คู่ครองกับสามีผู้ชาญฉลาดนาม เมลาเนียน เพราะมีเพียงเขาเพียงผู้เดียวที่สามารถเอาชนะวิ่งแข่งกับเธอได้ตามที่เธอตั้งกฎในการเลือกคู่ครองไว้ แต่ทว่าภายหลังเมลาเนียนได้ทำผิดต่อเทพซีอุสจึงถูกสาปให้เป็นสิงโต
ความหมายหลักในการทำนายไพ่ทาโรต์ Strength คือ ความแข็งแกร่ง ความเข้มแข็ง การระงับ การใช้กำลังและสติปัญญา ความกล้าแข็ง ความแข็งแรง ความบึกบึน

ราศีครองเรือน : สิงห์
หน้าไพ่
เเป็นไพ่ของความเข้มแข็ง ในภาพเป็นผู้หญิงสาวสวมเสื้อผ้าสีขาวแสดงถึงความบริสุทธิ์ และบนศรีษะมีมงกุฏ แสดงถึงชัยชนะเหนือผู้อื่น ผู้หญิงเป็นตัวแทนของพระจันทร์และความเป็นหญิง ในขณะที่สิงโตเป็นสัญลักษณ์ของพระอาทิตย์และความเป็นชาย หญิงสาวไม่ได้ พยายามจะฆ่าสิงโตตัวนี้ ใบหน้าแสดงความเมตตา เพียงแต่จะปราบให้เชื่องเท่านั้น สิงโตเป็นตัวแทนของความ เข้มแข็งและอำนาจ ก็ยังแพ้เธอ ในรูปนี้ไม่ได้แสดงการใช้กำลังแต่ประการใด แต่ใช้ความอ่อนโยน สิงโต ก็ยังยอมตามความต้องการของเธออย่างนอบน้อม

ความหมายของไพ่
ไพ่แห่งการต่อสู้และในการต่อสู้นั้น ย่อมต้องใช้วิธีการทุกรูปแบบเพื่อหวังแต่ชัยชนะอย่างเดียว จึงอย่าหวังว่าจะต้องเจอกติกาที่ แฟร์เสมอไป เรื่องของอุปสรรคย่อมเกิดได้เรื่อยๆ เมื่อหน้าไพ่ใบนี้โผล่ให้เห็นก็ดีไป อย่าว่าจะได้ไม่ต้องประมาทกัน บางครั้งอุปสรรคก็เพิ่มรสชาติ กับชีวิตดีเหมือนกัน คนที่ปล่อยลอยไปตามยถากรรม ก็เหมือนคนตายทั้งเป็น ไพ่ใบนี้จึงเปรียบเสมือนภูมิคุ้มกันของชีวิต อาจจะต้องเจ็บปวดก่อนหรือลำบากก่อนดีภายหลัง

การทำนาย
ไพ่ใบนี้บ่งบอกถึง ความกล้าหาญ ความเข้มแข็ง และความตั้งใจที่เด็ดเดี่ยว หมายถึงความเป็นไปได้ในการค้นพบตัวเอง และการรวมกันเป็นหนึ่ง การมีอำนาจเหนือผู้อื่น เป็นสตรีที่มีบารมี สามารถทำงานใหญ่ หรือเป็นที่พึ่งพาของคนทั่วไปได้ ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร เป็นไพ่ดีอีกใบหนึ่ง บางครั้งก็จะหมายถึงผู้หญิงที่คอยคุ้มครอง สามารถทำงานใหญ่ได้ มีคนเคารพแกรงใจ ถ้าถามเรื่องความรักและคนจับไพ่เป็นชาย มักจะอยู่ใต้อำนาจของสตรีเป็นส่วนใหญ่ ถ้าถามเรื่องการงานสตรีเป็นผู้นำ

ไพ่พระ หรือไพ่พระสังฆราช เป็นไพ่หมายเลขห้า สอดคล้องกับดาวพฤหัสในทางโหราศาสตร์ที่หมายถึงพระเช่นกัน 

คำสอน (เทศน์) ของไพ่พระนี้จะเป็นลักษณะเปิดเผย เป็นการแสดงออกภายนอก ในขณะที่คำสอนของไพ่ the High Priestess ซึ่งเป็นนักบวชเหมือนกัน จะเป็นคำสอนภายใน เป็นความลับ รู้ได้เฉพาะตน

ถ้าเปรียบเทียบในแง่การปกครอง ไพ่ใบนี้ก็เป็นไพ่นักปกครอง เพราะไพ่พระต้องควบคุมกฎ-กรอบ-ประเพณี ลักษณะจะคล้ายไพ่ the Emperor

เรามาดูสัญลักษณ์กันดีกว่า อย่างแรกดูท่าทางของพระรูปนี้ กำลังให้พรโดยชูสองนิ้วขึ้น เพียงแค่นี้ก็เป็นสัญลักษณ์ที่ลึกซึ้งที่เราต้องทราบคือ สองนี้ชี้ขึ้น สองนิ้วชี้ลง คุ้นๆมั้ยครับ เหมือนเคยเห็นในไพ่ใบไหนบ้างมั้ย? เหมือนไพ่ the Magician ที่ชูแขนข้างนึงขึ้น อีกข้างนึงลง ซึ่งทำตัวเหมือนเป็นสื่อกลางติดต่อกับพลังงานเบื้องสูงถ่ายทอดลงสู่ข้างล่าง (จากนามธรรม สู่รูปธรรม)

พระรูปนี้นั่งบนบัลลังก์ระหว่างเสาสองต้น เหมือนไพ่ the High Priestess แต่แทนที่จะเป็นเสาสีดำกับขาว แต่เป็นเสาสีเทาทั้งสองต้น มันมีความหมายที่ลุ่มลึกที่เราต้องค่อยๆพิจารณาคือ คำสอนของไพ่พระไม่ได้มีความลึกซึ้งเท่าไพ่ the High Priestess การที่ the High Priestess นั่งอยู่ระหว่างเสาสีดำกับขาวบ่งบอกถึงความเป็นกลาง คือรู้แต่ไม่แสดงออก ไม่ชี้ให้ใครๆเห็น ในขณะที่ไพ่พระนั่งอยู่ระหว่างเสาสีเทาหมายถึงการเลือกที่จะแสดงออกมา คือเลือกแล้วว่าเป็นสีเทา ไม่ใช่กลางๆระหว่างดำกับขาว เหตุที่เลือกสีเทาออกมาแล้วก็เพื่อชี้ให้เห็นถึงจุดยืนของพระ ต้องการแสดงออกมาให้คนภายนอกเห็นว่าคำสอนเป็นอย่างไร สามารถจับต้องได้ มองเห็นได้ เข้าใจได้ เพื่อที่จะปฏิบัติตามได้ เป็นจารีตประเพณีให้มันเหมือนๆกันไป ไม่เหมือน the High Priestess ที่เก็บความรู้ คำสอน ไว้ภายในให้รู้ได้เฉพาะตน สอนใครไม่ได้ บอกใครไม่ได้ พอจะเข้าใจสภาะของไพ่ทั้งสองรึยังครับ จะเห็นว่าไพ่ยิปซีมันมีความลุ่มลึกหลายระดับ ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือทำนายโชคชะตา เปิดไพ่ออกมาเป็นยังไงก็ทายโครมๆไปตามที่เคยท่องจำจากตำรามา หรือจากประสบการณ์ว่าตนเคยทายแบบนี้ หรือคนอื่นเคยทายแบบนี้แล้วมันถูก มันแม่น ก็เลยลอกๆ จำๆ มา ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ไพ่ยิปซีก็คงไม่ต่างจากการเสี่ยงเซียมซี!! หยิบได้อะไรก็ไปเปิดอ่านเอา เอาแค่ผิวๆตื้นๆก็ใช้ทำนายได้แล้ว ไม่ทายถูกก็ทายผิด มีอยู่สองอย่าง

Keyword ของไพ่ใบนี้คือกฎ-กรอบ-ประเพณี ดังนั้นจึงหมายถึงการทำตามๆกันไป ไม่ต้องคิดใหม่ทำใหม่ ไม่ต้องคิดนอกกรอบ แต่ทำตามธรรมเนียม ทำตามน้ำ ตามที่คนอื่นๆเขาทำกันอยู่แล้ว ดังนั้นมันจึงหมายรวมถึงการศึกษา ระเบียบการศึกษา และครูอาจารย์ด้วย

ที่เป็นคอนเซ็ปหลักของไพ่ใบนี้

ไพ่ทาโรต์ The Chariot มีหมายเลขประจำไพ่คือหมายเลข 7 หมายถึง การผจญ การเอาชนะ การต่อสู้ ความทุกข์ยาก
The Chariot แปลความหมายตามศัพท์ภาษาอังกฤษ จะหมายถึง รถศึกสงครามเทียมด้วยม้าประเภทหนึ่ง มีในสมัยอียิปต์หรือกรีก-โรมันโบราณ สามารถบรรทุกคนได้น้อย ใช้สำหรับการประลองแข่งขันการสู้รบ หรือเป็นยานพาหนะของอัศวินนักรบ ล้อเกวียนของรถสามารถติดอาวุธที่แกนของล้อได้
ตำนานไพ่ทาโรต์ The Chariot คือ เทพเอเรส บุตรของเทพซีอุสและเทพีฮีร่า เป็นเทพแห่งนักรบและสงคราม มีนิสัยที่ดุดัน บ้าบิ่น วู่วาม ชอบความรุนแรง ชอบเอาชนะ ไม่เป็นที่โปรดของเทพหลายๆองค์แต่เป็นที่โปรดของพวกนักรบหรือพวกที่ชอบทำสงคราม มีบริวารสองคนคือ ดิมอสและโฟบอส แปลว่าความกลัวกับสยองขวัญ เดินทางไปไหนมักมียานพาหนะคู่กายคือรถศึกเทียมม้า
ไพ่ทาโรต์ The Chariot มีรายละเอียดของไพ่ที่ส่วนมากจะคล้ายคลึงกันในหลายๆสำรับนั่นก็คือ จะเป็นรูปขุนศึกแต่งกายชุดนักรบยืนอยู่เป็นรถศึกเทียมม้าหรือตัวสฟิงค์สองตัวซึ่งมีสีแตกต่างกัน ตัวหนึ่งสีขาวอีกตัวหนึ่งสีดำ รถศึกที่ใช้อาจจะมีหลังคาหรือไม่มีแล้วแต่การออกแบบที่แตกต่างกันออกไป หากมีหลังคาลวดลายผ้าของหลังคามักจะเป็นรูปดาว และมีดวงจันทร์เล็กๆประดับ ตัวนักรบเองจะถืออาวุธเหมือนหอก มีพระจันทร์เสี้ยวประดับที่บ่าทั้งสองข้างของตน บรรยากาศของไพ่เหมือนว่ากำลังจะออกเดินทาง การเผชิญหน้า การแข่งขันสู้รบ
ไพ่ทาโรต์ The Chariot มีความหมายหลักในการทำนายคือ การแข่งขัน การสู้รบ การเดินทาง ยานพาหนะ การฝ่าฟัน ความเร่งรีบ ความท้าทาย การเอาชนะ การขัดแย้ง ความกล้า

ราศีครองเรือน : กรกฎ
หน้าไพ่
ราชรถนี้ถูกลากด้วยตัวสฟิงซ์ สองตัว ตัวหนึ่งดำ ตัวหนึ่งขาว โดยมีเสาสี่ต้น เป็นโครงรับผ้าลาย ดาวสีน้ำเงิน สฟิงซ์เป็นสัญลักษณ์ของความน่าฉงนสนเท่ห์ และปริศนา ที่ผู้ขับราชรถจะต้องแก้ปัญหาหรือตัดสินใจในบางสิ่งบางอย่าง โดยแต่ละตัว จะสอนให้เห็นถึงธรรมชาติที่ตรงข้ามกันตามสีที่แตกต่างกันและให้สังเกตดูผู้วาดจะวาดรูปสฟิงซ์เพศหญิง ซึ่งแสดงถึงอารมณ์และความรู้สึกที่ขัดกัน ระหว่างจิตใจของผู้จับ ว่ากำลังมีความคิดที่เปลี่ยนแปลง หรือกำลัง ตัดสินใจอะไรบางอย่าง ที่ยังเลือกไม่ได้ หรือกำลังหาทางออกอยู่ และบนบ่าให้สังเกตดี ๆ จะมีรูปพระจันทร์และ และใบหน้าของคนอยู่ทั้งสองข้าง ก็จะแสดงถึงบุคคลแสดงได้หลายบทบาท หรือชอบเปลี่ยนแนวความคิดภายในจิตใจ เสาสี่ต้นเป็นตัวแทนของธาตุทั้งสี่ ผ้าลายดาวเป็นตัวแทนของสวรรค์ ในขณะที่ตัวราชรถเอง เป็นตัวแทนของโลก ผู้ขับรถคันนี้ชื่อ แอเรสเป็นเทพที่มีอารมณ์รุนแรงฉุนเฉียวง่าย ชอบใช้กำลัง

ความหมายของไพ่
ความทะเยอทะยานในทุกเรื่องที่ต้องการ เปรียบเสมือนวัยหนุ่มสาวที่มีไฟไม่รู้ดับไม่มอด มี แต่จะติดเชื้ออยู่เสมอถ้าเป็นอาณาจักร ไพ่ใบนี้ก็คือ ขุนศึกผู้ซึ่งจะต้องเก่งทั้งรุกและรับ มีความเตรียมพร้อมอยู่เสมอหน้าไพ่นี้จึงเหมาะกับเรื่องของการแข่งขันทุกรูปแบบ แน่นอน ว่าถ้าท่านไม่ประมาท ชัยชนะย่อมอยู่แค่เอื้อมใครที่ต้องการประมูลงานหรือสอบแข่งขัน ก็ภาวนาให้หน้า ไพ่ใบนี้ปรากฏ หรืออยากลุ้นขั้นเงินเดือน รับรองว่าได้แน่นอน

การทำนาย
เป็นคุณสมบัติของพลังอำนาจที่จำเป็นในการต่อสู้เพื่อจุดหมายที่หวังไว้ มีความขัดแย้งทาง ความคิด ศักดิ์ศรีของตัวเองเป็นสิ่งจำเป็น และหมายถึงความสำเร็จการมีชัยชนะเหนือ อุปสรรคและความยุ่งยากอย่างแน่นอน รวมไปถึงการเดินทางไกล มีความคิดสองจิตสองใจ และบางครั้งก็จะ ก็จะหมายถึงกำลังจะมีการได้รับข่าวสารจากแดนไกล หรือผู้จับไพ่กำลังจะมีเรื่องของการเดินทางเกิดขึ้น ทางด้านจิตใจ ส่วนมากมักเป็นคนรักพี่เสียดายน้องในทำนองนั้น หรือยังตัดสินใจอะไรยังไม่ได้ แต่ก็เป็นไพ่ที่ดีใบหนึ่งจะบอกถึงเรื่อง และเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ไม่ใช่ไพ่ร้ายเพราะ ด้านหลังผู้วาดใช้สีเหลืองหมายถึงความหวัง ความแจ่มใส

ไพ่คู่รัก อาจารย์บางท่านเรียกทีเล่นทีจริงว่า "ไพ่ชู้รัก" เพราะเวลาได้ไพ่ใบนี้มักจะมีเรื่องมือที่สามที่สี่เข้ามาเกี่ยวข้อง

ในตอนแรกไพ่ใบนี้ใช้ชื่อว่า "Choice" หรือ "ทางเลือก" ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรักหรือไม่ก็ตาม แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่พ้นเรื่องความรัก

จากรูปจะเห็นได้ว่าเป็นรูปเทวดากำลังให้พรชายหญิงสองคนนี้ (อดัมกับอีฟ) ในไพ่ชุดเก่าๆจะเทวดาองค์นี้จะเป็นคิวปิดกำลังยิงศร พอมาในไพ่ใบนี้กลายเป็นการอวยพรแทน ซึ่งอาจสื่อถึงนัยที่สำคัญอันหนึ่งว่าคู่รักนี้ได้แต่งงานกันก็ไม่ต้องมีพิธี เรียกว่าอยู่กินกันเฉยๆก็ได้

ถ้าสังเกตุไพ่ชุดนี้ดีๆ จะพบว่ามีไพ่อีกใบหนึ่งที่วาดออกมาล้อเลียนไพ่ใบนี้ ลองคิดดูนะครับ ว่าเป็นไพ่อะไร.....เฉลย...ไพ่ the DEVIL คือมีเทวดา (ซาตาน) ยืนตรงกลางระหว่างชายหญิงที่ยืนอยู่สองข้าง ดังนั้นไพ่ทั้งสองใบนี้จึงมีลักษณะที่คล้ายกันคือ the Lovers เป็นความรัก ความสัมพันธ์ในแง่บวก เป็นมิตรที่ดี เป็นแฟนที่ดี เป็นความรักที่มีความสุข สดชื่น ในขณะที่ the Devil จะเป็นรักที่ขื่นขม ความสัมพันธ์ที่แฝงด้วยผลประโยชน์ เป็นด้านมืดของความรักนั่นเอง

โดยหลักๆแล้วไพ่ใบนี้นอกจากจะหมายถึง "ทางเลือก" แล้วยังหมายถึงเสน่ห์ ดึงดูดตาดึงดูดใจ ซึ่งไม่จำป็นต้องเกี่ยวกับเพศอย่างเดียว อาจเป็นสิ่งของที่เราชอบ เป็นงานที่เราใฝ่ฝัน เป็นเพื่อนรักที่ถูกชะตาก็ได้ทั้งนั้น และยังหมายถึง การรวมกัน รวมกลุ่ม กลับมาเจอกัน การพบปะกัน ฯลฯ หรือใช้คำว่า "union" คำเดียวก็ได้ครับ อย่าตีความแคบๆเพียงแต่เรื่องความรักแต่เพียงอย่างเดียว เราต้องเข้าใจว่าไพ่มันบอก "สภาวะ" หรือ "อารมณ์" ไม่ได้บอกเรื่องราว เรื่องราวเรื่องความรัก เรื่องเพื่อน เรื่องอะไรก็ตามนั่นเราตีความหรือเดาๆเอาเอง หรือจากที่เจ้าชะตากำหนดหรือตั้งคำถามมาเป็นกรอบให้เราทาย ไพ่ไม่ได้บอกว่านี่คือเรื่องความรัก ได้ใบนี้จะหมายถึงมีความรัก หรือมีรักสามเส้า....อย่างนี้ใจแคบเกินไปครับ ทายแบบเสี่ยงเซียมซีชัดๆ มันง่ายเกินไป ไพ่ยิปซีมันมีศักยภาพมากกว่านั้น!

เมื่อเรารู้ keyword เราก็สามารถนำมาใช้ทายได้ในทุกเรื่องไม่ใช่แค่เรื่องความรัก เช่นหากเราดูเรื่องการงาน ไพ่ใบนี้บอกว่ามีเพื่อนร่วมงานดี เพื่อนร่วมงานเก่งสามารถทำให้การงานเดินไปได้อย่างดี และยังอาจหมายถึงทางเลือกที่ต้องตัดสินใจในเรื่องงานก็ได้

อาจารย์บางท่านเปรียบเทียบว่าไพ่ใบนี้เหมือนกับ "ภพปัตนิ" และ "ภพสหัชชะ" ในทางโหราศาสตร์ คือมิตร เพื่อน การติดต่อ นั่นเอง ซึ่งก็ถือว่าใช้ได้ ไม่ผิดครับ

The Emperor (IV) ไพ่ทาโรต์แห่งความยิ่งใหญ่สูงส่ง และเป็นตัวแทนของราศีเมษ
ไพ่ทาโรต์ The Emperor มีหมายเลขประจำไพ่คือ หมายเลข 4 หมายถึง ความมั่นคง ความแข็งแรง 
The Emperor แปลความหมายตามศัพท์ภาษาอังกฤษ หมายถึง พระมหาจักรพรรดิ , พระมหาราชา.
ไพ่ทาโรต์ The Emperor มักจะมีการออกแบบลวดลายและรายละเอียดของไพ่ดังนี้ คือ มีผู้ชายแต่งองค์ทรงเครื่องดังพระมหากษัตริย์น่าเกรงขามประทับอยู่บนบัลลังก์ มีหัวแกะประดับอยู่บนบัลลังก์ที่นั่ง มือหนึ่งถือลูกโลกหรือลูกแก้วแสดงถึงเป็นผู้ปกครองและวิสัยทัศน์ อีกมือหนึ่งถือไม้คฑาแสดงถึงอำนาจและการบังคับบัญชา ด้านหลังบัลลังก์อาจจะมีภูเขาตระหง่านตั้งอยู่ สวมมงกุฎทองคำประดับเพชรสวมชุดเกราะนักรบอันแข็งแกร่ง ทำหน้าเคร่งขรึม มีพลัง สายตาจดจ้อง
ประวัติความเป็นมาของไพ่ทาโรต์ The Emperor คือ เทพซีอุส พระบิดาคือเทพโครนัสและพระมารดาคือเทพีรีอา สมัยที่เทพโครนัสปกครอง ได้นึกถึงคำพูดที่เทพอูรานอสได้บอกไว้ว่า ยามใดที่เจ้ามีบุตรเจ้าจะถูกบุตรของเจ้ายึดอำนาจในภายภาคหน้าเช่นเดียวกับที่เจ้าเคยทำกับข้า ทำให้ยามใดที่เทพีรีอามีบุตรเทพโครนัสจะจับบุตรกลืนกินเสีย จนประสูติเทพซีอุสเทพีรีอาแกล้งห่อหินให้เทพโครนัสกินแทน แล้วนำเทพซีอุสให้ผู้อื่นเลี้ยง ต่อมาเทพซีอุสเติบโตได้รวบรวมพรรคพวกแล้วมาแย่งชิงอำนาจจากเทพโครนัส จากนั้นจับเทพโครนัสดื่มน้ำสำรอกคายบุตรและก้อนหินที่กลืนกินเข้าไปออกมาหมดสิ้น แล้วเทพซีอุสก็ได้ปกครองบัลลังก์ต่อมา
ไพ่ทาโรต์ The Emperor มีความหมายหลักในการทำนายดังนี้ คือ ความสูงส่ง ความยิ่งใหญ่ ความมีอำนาจ การบังคับบัญชา การออกคำสั่ง การปกครอง ความเป็นผู้นำ การปกครองดูแล ความเป็นเมืองและประเทศ วิสัยทัศน์ การวางแผน

ราศีครองเรือน : เมษ
หน้าไพ่
เป็นรูปจักรพรรดิ นั่งอยู่บนบัลลังก์สลักจากหินอันสง่างาม มีรูปหัวแกะประดับอยู่ทั้งสองข้าง หมายถึงผู้มีอำนาจ ตวามมั่นคง พระพักตร์มองไปข้างหน้า สายตาที่เฝ้าดู ระวังระไวสิ่งต่าง ๆ รอบตัว และภายในขอบเขต สายน้ำที่อยู่ด้านหลัง แสดงถึงการมีเขตแดนของจักรพรรดิ ทรงสวมมงกุฎที่ประดับด้วยเพชรพลอยแสดงถึงความร่ำรวย และถือลูกแก้วกับคทา หมายถึงผู้มีบารมี การสั่งการ จักรพรรดิสวมเสื้อผ้าสีแดงออกส้ม และสีน้ำเงิน หมายถึงพลังอำนาจ และความยุติธรรม โดยปกคลุมเสื้อเกราะ แสดงถึงถึงคุณสมบัติ ของจักรพรรดิ ผู้มีอำนาจ ซ่อนอยู่ภายใน พร้อมที่จะออกรบ และช่วยเหลือผู้ที่มีความทุกข์ และความเชื่อถือในสังคม

ความหมายของไพ่
เป็นสัญลักษณ์พ่อที่พร้อมทั้งอำนาจ บารมี หน้าที่ และพลังชายใดที่จับได้ไพ่ใบนี้ นับ ว่าดวงจะเฮงสุดขีด จับงานอะไรก็สำเร็จ เงินทองมีเข้ามา ซื้อทรัพย์สินก็ถูกใจ เมื่อนำไปขายต่อได้กำไร หลายเท่า เหมาะกับ คนที่จะทำการใหญ่ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักการปกครอง นักธุรกิจ เรียกว่าระดับไม่เป็นรองใครพูดถึงเรื่องสุขภาพก็แข็งแรงดีสมเป็นนักกีฬา ที่สำคัญคืออย่า ใช้กำลังพร่ำพรื่อแค่นั้นเองอายุยืน

การทำนาย
จะได้เป็นใหญ่ มีผู้คนให้การยอมรับนับถือ ในอนาคตอันใกล้นี้ ( ทั้งนี้เพราะท่านเป็นคนหนักแน่น มีความยุติธรรม ยึดถือความเป็นจริงเป็นหลัก มีความมานะอดทนเป็นเลิศ เป็นคนมองโลกในแง่ความเป็นจริง มากกว่าอุดมการณ์หรือความเพ้อฝัน )เป็นตัวแทนของความทะเยอทะยาน ความร่ำรวย การมีชื่อเสียงในวงสังคม ความแข็งแกร่งดุดัน แต่ให้ความยุติธรรมกับทุกคน การอ่านไพ่ใบนี้หมายถึง ความสำเร็จ อาชีพการงานที่เกี่ยวกับต่างประเทศ รวมไปถึงผู้สนับสนุนในเรื่องที่ถาม และการเข้าไปเกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจในสังคมชั้นสูง เจ้าของบริษัท ผู้มีอำนาจหน้าที่ในหน่วยราชการ ที่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ถาม ถือเป็นไพ่สนับสนุนที่ดีใบหนึ่ง

The Empress (III) ไพ่ทาโรต์แห่งธรรมชาติความอุดมสมบูรณ์ และตัวแทนของดาวศุกร์
ไพ่ทาโรต์ The Empress มีหมายเลขประจำไพ่คือหมายเลข 3 หมายถึง การเจริญเติบโต ความก้าวหน้า พลังงาน การประสาน
ไพ่ทาโรต์ The Empress ส่วนมากมักจะมีการออกแบบูปไพ่ดังนี้ คือ ผู้หญิงวัยผู้ใหญ่หรือวัยกลางคนดูอุมดมสมบูรณ์อวบอิ่ม สวมชุดคลุมยาวเหมือนชุดสตรีมีครรภ์ ชุดที่สวมใส่มีลายรูปหัวใจหรือรูปผลไม้ นั่งอยู่ท่ามกลางสวนต้นไม้ ท้องทุ่งและธรรมชาติ บนศีรษะสวมมงกุฎเพชรมีเพชรทั้งหมด 12 เม็ด และสวมสร้อยคอไข่มุก 7 เม็ด มือข้างหนีงถือคฑาและใกล้ๆอาจจะมีโล่รูปหัวใจมีสัญลักษณ์ดาวศุกร์หรือเพศหญิงเขียนเอาไว้ ด้านหน้าเป็นทุ่งข้าวโพดหรือทุ่งข้าวสาลี

 ส่วนด้านหลังเป็นป่าต้นไม้และมีน้ำตก หน้าตายิ้มแย้มมีความสุข บรรยากาศไพ่ดูสงบเป็นธรรมชาติ สดใส
The Empress แปลความหมายตามศัพท์ภาษาอังกฤษ หมายถึง จักรพรรดินี หรือ พระมหาราชินี
ตำนานไพ่ทาโรต์ The Empress คือ เทพีดีมิเตอร์ เป็นธิดาของเทพโครนัสและเป็นพี่น้องเดียวกันของเทพซีอุส แต่ก็เป็นชายาของเทพซีอุสเช่นเดียวกัน มีธิดาชื่อ เทวีเพอร์เซโฟนี เทพีดีมิเตอร์มีหน้าที่ดูแลฤดูกาลและพืชพรรณต้นไม้ เป็นเทพธิดาแห่งการเพาะปลูกและการเกษตร ในช่วงที่เทวีเพอร์เซโฟนีถูกเทพฮาเดสลักพาตัวไปหรือช่วงต้องไปอยู่ในยมโลก ทำให้นางเศร้าโศกเสียใจ ไม่มีความต้องการจะทำหน้าที่ ทำให้พืชพรณต้นไม้เหี่ยวแห้ง ฤดูกาลแห้งแล้ง แต่นางก็ได้สอนมนุษย์ให้รู้จักเพาะปลูกเก็บเกี่ยว และได้มอบเมล็ดพันธ์ไว้ใช้ เมื่อยามที่แห้งแล้งจะได้ไม่ลำบาก แต่พอได้กลับมาอยู่กับเทวีเพอร์เซโฟนี พืชพรรณต้นและและฤดูกาลก็กลับมาสดชื่นอีกครั้ง
ไพ่ทาโรต์ The Empress มีความหมายในการทำนายหลักคือ ความเป็นแม่ ความห่วงหาอาทร การดูแล ความอุดมสมบูรณ์ ความเป็นธรรมชาติ การให้ ความเมตตา ความอิ่มเอิบ การเลี้ยงดู